มีเสียงร่ำลือเรื่อง อันตรายของการดีท็อกซ์ ทำนองว่า คนส่วนใหญ่ที่ดีท็อกซ์จะเกิดอาการท้องผูกและไม่สามารถขับถ่ายได้เองตามธรรมชาติ
อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อในร่างกาย หากอุปกรณ์ที่ใช้ไม่มีความสะอาดมากพอ อาจส่งผลให้ถึงตาย บางรายลำไส้เกิดทะลุระหว่างการล้างพิษ เนื่องจากไม่ทราบว่าตนเองมีปัญหาลำไส้อักเสบและผนังลำไส้บาง
เรามาดูความจริงที่เคยบอกไว้ดีกว่า โดยอาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูด้านต้นตำรับชีวจิต ได้เสริมความรู้ความเข้าใจ เรื่องของการดีท็อกซ์ไว้ว่า การทำดีท็อกซ์นั้นจะทำให้รู้สึกสบาย และมีข้อควรระวังไว้ดังนี้
1. อย่าทำติดต่อกันทุกวัน เพราะหากทำบ่อยเกินไป จะส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานผิดปกติ จนไม่สามารถขับถ่ายได้ด้วยตนเอง
2. กาแฟที่ใช้นั้นควรเป็นกาแฟบริสุทธิ์สำหรับทำดีท็อกซ์เท่านั้น ไม่ควรใช้กาแฟสำเร็จรูป
3. อุปกรณที่ใช้ควรมีความสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
4. การดีท็อกซ์ควรมีความละเอียดรอบคอบและคอยระมัดระวังเป็นพิเศษ ในขณะที่สอดปลายท่อเข้าทางทวารหนัก ให้ลึกประมาณ 2 นิ้ว เปิดวาล์วเพียงครึ่งเดียว เพื่อให้น้ำกาแฟไหลเข้าได้อย่างช้า ๆ
5. คนที่ผ่าตัดลำไส้ใหญ่ จะมากหรือน้อยก็ตาม โดยเฉพาะผู้ตัดลำไส้ใหญ่และทำรูถ่ายหน้าท้อง ไม่แนะนำให้ทำดีท็อกซ์
6. อย่าใช้น้ำร้อนหรือน้ำเย็น (ให้ใช้น้ำอุ่นพอดี)ในการทำดีท็อกซ์
7.อย่านำการดีท็อกซ์ไปใช้ในทางที่ผิด จงรักษาจุดประสงค์ที่แท้จริงของการดีท็อกซ์เอาไว้ นั่นคือ กำจัดท็อกซิน ออกจากร่างกาย ไม่ใช่ทำเพื่อการรักษาอาการเจ็บป่วยของโรคต่าง ๆ หรือบางคนใช้การทำดีท็อกซ์ แก้อาการท้องผูก ถือว่าเป็นวิธีที่ผิด
ท้ายสุดแล้วการทำดีท็อกซ์ จะต้องควบคู่กับการกินอาหารตามสูตรชีวจิต จึงเกิดผลดีที่สุด
ปัจจัยที่ทำเกิดท็อกซิน (พิษ)
? ภายใน : อาจเกิดจากข้อผิดพลาดในระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่น ปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกาย เกิดจากความผิดพลาดของระบบต่างๆ ในร่างกาย หรือกระบวนการย่อยและการดูดซึมอาหาร ? ภายนอก : สิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคภายนอกที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น การกินและการปฏิบัติตัวผิด ๆ ในชีวิตประจำวัน แม้แต่ความเครียดเองก็สามารถสร้างท็อกซินให้เกิดขึ้นได้
เมื่อร่างกายส่งสัญญาณ ว่าเรามีท็อกซินเกิน ในเบื้องต้นจะมีอาการท้องผูกหลายวัน และมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตัวร้อน ปากแห้ง จมูกแห้ง ตาแดง นอนไม่หลับ และปวดเมื่อยตามตัว
หากปล่อยให้มีอาการเช่นนี้ต่อไป นานวันเข้าเราจะป่วยด้วยสารพัดโรค เริ่มต้นจากเป็นหวัด ภูมิแพ้ ในระยะยาวส่งผลให้ร่างกายเสื่อมโสมลง ดูแก่ก่อนวัย อาจร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็ง